การขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ลงทุนน้อย ต้นใหม่จะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและเกิดในปริมาณมาก ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเพาะเมล็ด คือ ช่วงระหว่างเดือนเมษายนถึงปลายเดือนกรกฏาคม อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ได้แก่
เมล็ดเล็กๆ จำนวนมากในผลซึ่งสุกเต็มที่ วิธีสังเกตว่าผลสุกเต็มที่แล้วหรือยัง ให้สังเกตจากการเปลี่ยนสีของผล ลักษณะผลจะนุ่มขึ้นหรือแห้ง โดยเมล็ดที่จะนำมาเพาะนั้นต้องนำไปผึ่งให้แห้งในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเท
ภาชนะเพาะเมล็ด จะเป็นกระบะ ตะกร้า หรือกระถาง ก็ได้ แต่ต้องเป็นภาชนะที่ช่วยรักษาความชื้นได้อย่างเหมาะสมและคงที่อยู่เสมอ สำหรับอากาศร้อนอย่างเมืองไทย อาจใช้กระดาษหนังสือพิมพ์คลุมทับ หรือใช้ถุงพลาสติกห่อภาชนะเพาะเพื่อช่วยรักษาความชื้น ภาชนะเพาะเมล็ดควรเตรียมไว้ 2-3 ใบ และเจาะรูที่ก้นไว้ทุกใบ เพราะความชื้นจะขึ้นมาที่เมล็ดได้ทั้งก่อนและหลังการงอก สำหรับภาชนะเพาะเมล็ดนี้ ถ้าหากไม่ได้ใช้ของใหม่ควรนำมาตั้งไฟหรืออบความร้อนเพื่อฆ่าสิ่งที่อาจจะเป็นอันตรายต่อต้นกล้าด้วย
วัสดุเพาะ อาจะเป็นส่วนผสมระหว่างทรายและฮิวมันหรือปุ๋ยใบไม้ผุ วิธีเตรียมเริ่มโดยการร่อนฮิวมัสให้ได้ส่วนที่ละเอียดซึ่งลอดตะแกรงลงมา จากนั้นจึงร่อนทรายต่อ ทรายที่จะนำไปใช้คลุกเคล้ากับฮิวมัส คือส่วนของทรายหยาบที่ค้างอยู่บนตะแกรง ส่วนก้อนกรวดเล็กๆ ที่อาจจะปนอยู่ด้วยให้หยิบทิ้งไป สาเหตุที่ไม่ใช้ทรายละเอียดเพราะ ทรายละเอียดมักจะจับตัวแข็ง ซึ่งถ้าใช้ในการเพาะอาจจะเป็นอันตรายต่อต้นกล้า ปริมาณทรายหยาบจะต้องให้มีมากกว่าฮิวมัส ในอัตราส่วนฮิวมัส 1 ส่วนต่อทรายหยาบ 8-9 ส่วน
เมื่อเตรียมวัสดุเพาะแล้วให้นำไปใส่ในถาดปากกว้างหรือภาชนะโลหะ นำไปตั้งไฟหรืออบความร้อนประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อเย็นลงแล้วจึงนำไปบรรจุไว้ในภาชนะที่สะอาด จุดประสงค์ของการอบความร้อนก็เพื่อฆ่าสิ่งที่อาจจะเป็นอันตรายต่อต้นกล้า เช่น เมล็ดของวัชพืช ซึ่งถ้าปล่อยให้เมล็ดของวัชพืชเจริญเติบโตพร้อมๆ กับเมล็ดที่เพาะจะทำให้การกำจัดในภายหลังเป็นไปด้วยความยากลำบาก และอาจจกระทบกระเทือนต่อเมล็ดที่เพาะอยู่ด้วย หรือถ้าหากต้องการฆ่าเชื้อราซึ่งอาจจะมีผลต่อเมล็ดที่ยังอยู่ในเปลือกหุ้ม ให้ใช้สารละลายโพแทสเซียม ไฮดรอปซิควิโนไลน์ ซัลเฟต ชนิดเข้มข้นละลายน้ำจนเจือจาง อาจจะกะขนาดได้โดยโรยผงชนิดนี้ลงบนเหรียญบาทแล้วนำไปละลายในน้ำครึ่งลิตร รดลงบนวัสดุเพาะเป็นน้ำแรก สานละลายชนิดนี้มีราคาไม่แพง นอกจากนี้โพแทสเซียม ไฮดรอปซิควิโนไลน์ ซัลเฟต ในปริมาณ 1/8 – 1/4 ออนซ์ จะสามารถใช้ได้นาน 1-2 ฤดูกาลเลยทีเดียว
สำลี ไม่ต้องเตรียมไว้มากนัก แต่ควรเป็นสำลีชิ้นใหญ่ เพราะจะใช้ในการปิดรูที่ก้นภาชนะเพาะ
น้ำ ควรเป็นน้ำสะอาดที่ผ่านการต้มเพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ แล้ว
จานหรือถาดแบนๆ ใช้สำหรับรองภาชนะเพาะเมล็ด
กระป๋องพ่นน้ำ ควรเป็นชนิดที่สามารถพ่นน้ำเป็นฝอยเล็กๆ ได้
แผ่นบังแดด สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างสำหรับการขยายพันธุ์แคคตัสด้วยการเพาะเมล็ด คือ ต้องมีร่มเงาให้แก่เมล็ด โดยอาจจะทำแผ่นบังแดดได้อย่างง่ายดายโดยใช้กรอบเก่าที่ไม่มีกระจกขึงด้วยผ้ามัสลิน เพราะจะช่วยให้อากาศผ่านเข้าออกได้ และช่วยบังแสงแดดในเวลาเดียวกัน ในการวางกรอบไม้ควรจะให้เหลือระยะห่างประมาณ 5 เซนติเมตร และไม่ควรบังคับไว้ตลอดเวลา เพราะเมล็ดต้องการอากาศหมุนเวียน หรืออาจจะใช้อีกวิธีหนึ่งโดยการใช้เศษไม้ หนาๆ หรือกระถางมาวางไว้ทั้ง 4 มุม จากนั้นวางไม้ยาวลงบนด้านทั้งสี่แล้ววางกระดาษทิชชูลงบนไม้ สำหรับวิธีนี้อาจจะไม่ค่อยสะดวกนักตรงที่จะต้องเลิกแผ่นกระดาษออกทุกครั้งที่รดน้ำ หรือตรวจจานเพาะเมล็ด