กลุ่ม Astrophytum แคคตัสกลุ่มนี้มีลักษณะเป็นทรงกระบอกรูปหมวกพระบิชอพ ลำต้นกว้าง เป็นเหลี่ยมหรือมีพูลึก มีจุดประสีขาวทั้งต้น มีหลายสายพันธ์ุ เช่น Astrophytum myriostigma , Astrophytum ornatum , Astrophytum capricorne เป็นต้น
|
||||||
กลุ่ม Astrophytum แคคตัสกลุ่มนี้มีลักษณะเป็นทรงกระบอกรูปหมวกพระบิชอพ ลำต้นกว้าง เป็นเหลี่ยมหรือมีพูลึก มีจุดประสีขาวทั้งต้น มีหลายสายพันธ์ุ เช่น Astrophytum myriostigma , Astrophytum ornatum , Astrophytum capricorne เป็นต้น หลังจากเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างพร้อมแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็เริ่มลงมือเพาะได้เลย ก่อนอื่นควรที่จะเตรียมนำสำลีมาวางไว้ที่ก้นของภาชนะเพาะ ปิดรูที่ก้นภาชนะให้สนิท แต่ต้องไม่อัดแน่นจนเกินไป จากนั้นดึงเศษสำลีลงให้ทั่วๆ รูแผ่ให้ทั่วแล้วกดลงไปเบาๆ เสร็จแล้วโรยทรายลงไปเล็กน้อยเพื่อให้ปิดกั้นกระถางและชิ้นสำลีไว้ ซึ่งทรายที่นำมาใช้ เป็นที่ทรายชนิดละเอียดก็ได้ เทวัสดุเพาะที่เตรียมไว้ลงภาชนะแต่ละใบ แต่ไม่ควรเทจนถึงขอบให้เหลือระยะจากขอบบนลงมาประมาณ 1/3 นิ้ว ใช้มือตบเบาๆ ให้วัสดุเพาะได้ระดับเสมอกัน ถ้าวัสดุเพาะตามขอบยวบลงไปให้โรยเติมลงไปอีกเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เมล็ดกลิ้งไปอยู่ใกล้ขอบภาชนะ เนื่องจากเมล็ดแคคตัสมีหลายชนิด เมล็ดแต่ละขนาดต้องการการดูแลและวิธีเพาะที่แตกต่างกันไป ดังนั้น เราจึงต้องแบ่งวิธีการนำเมล็ดลงดินโดยแบ่งได้เป็น 4 วิธี ได้แก่ 1. เมล็ดขนาดเล็กมาก ควรเริ่มจากการโปยทรายหยาบลงไปก่อน โดยโรยบนวัสดุเพาะบางๆ และให้สม่ำเสมอ จากนั้นจึงโรยเมล็ดตามลงไปให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมล็ดเหล่านี้จะตกลงไประหว่างเมล็ดทราย นำภาชนะเพาะไปวางบนถาดหรือจานที่บรรจุและปล่อยให้ดูดน้ำจนเปียก เพื่อให้แน่ใจว่าเมล็ดจะตกลงไปในระหว่างเมล็ดทราย ให้ใช้น้ำฉีดพ่นไล่ส่วนที่ค้างอยู่ด้านบนให้ลงไปอยู่ในส่วนที่มีทรายรองรับ และงอกได้ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีขึ้นไป จากนั้นจึงยกไปวางไปถาดหรือจานอีกใบหนึ่ง 2. เมล็ดขนาดกลาง เริ้มจากการวางเมล็ดให้ทั่ววัสดุเพาะที่ผสมไว้ วางภาชนะเพาะลงในถาดหรือจานบรรจุน้ำ ปล่อยให้ดูดน้ำจนเปียกทั่ว จะทำให้มองเห็นเมล็ดและเมล็ดจะไม่กลิ้งไปมาเนื่องจากอยู่บนวัสดุที่เปียก จากนั้นโปรยทรายหยาบให้ทั่วจนมองไม่เห็นเมล็ด แต่อย่าโปรยจนหนา เมื่อเรียบร้อยแล้วจึงยกไปวางในถาดหรือจานอีกใบหนึ่ง สำหรับในบทความต่อไปจะมาต่อในอีก 2 ขั้นตอนการเพาะเมล็ดขนาดใหญ่ และการขั้นตอนการเพาะเมล็ดผสมกันหลายขนาด กลุ่ม Ario carpus เป็นพืชพื้นเมืองของเม็กซิโก และรัฐเท็กซัสของอเมริกา มีรูปร่างแปลก สะดุดตา บางชนิดมีลักษณะคล้ายเกล็ดหินที่มีชีวิต มักออกดอกบริเวณยอดบนสุด มีหลายสายพันธุ์ เช่น Ariocarpus fissuratus , Ariocarpus retusus , Ariocarpus trigonus เป็นต้น สกุล Notocactus แคคตัสในสกุลนี้มีอยู่ด้วยกัน 35 ชนิดกับอีกหลายสายพันธุ์ ชื่อสกุล Notocactus มาจากภาษากรีก หมายถึง แคคตัสทางตอนใต้ แคคตัสในสกุลนี้มีลักษณะรูปร่างทรงกลมขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลาง 7.5-10 เซนติเมตร และทรงกระบอกสูง 1 เมตร ต้นมีหลายสี เช่น สีเขียวอ่อน สีเขียวเข้ม หรือเหลือสีน้ำตาลแดง มีทั้งขึ้นเป็นต้นเดี่ยวๆ และอยู่รวมกันเป็นกลุ่มๆ ลำต้นเป็นสันประมาณ 10-30 สัน ตุ่มหนามเป็นตุ่มนู้นเรียงชิดกัน บางครั้งมีขนเป็นปุยนุ่มสีขาว สีเหลือง หรือสีน้ำตาล ปกคลุมอยู่ ประกอบด้วยหนามข้างสั้นและแข็งมาก 20 อัน ยาวประมาณอันละ 0.6-2.5 เซนติเมตร แผ่แนบกับผิวต้น หนามกลางตั้งตรงและโค้งเล็กน้อย มีอยู่ประมาณ 6 อัน ยาวเป็น 2 เท่าของหนามข้าง มีหลายสี เช่น สีขาว สีเหลือง น้ำตาลแดง ดอกมีลักษณะทรงกรวย มีหลายสีด้วยกัน […] ปัจจุบันนิยมใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์มากกว่าปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก เพราะปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักอาจมีเชื้อโรคหรือแมลงปลอมปนจนเป็นสาเหตุที่ทำให้แคคตัสเกิดโรคต่างๆ ได้ง่าย หากนำไปอบผ่านความร้อนก่อน ประสิทธิภาพของปุ๋ยและแร่ธาตุอาหารก็จะลดลง ในขณะที่ปุ๋ยวิทยาศาสตร์นั้นใช้ได้สะดวกมีสูตรให้เลือกใช้งานมากมาย จึงสามารถกำหนดชนิดและปริมาณของธาตุอาหารได้ ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ที่ใช้กับแคคตัสก็เหมือนกับปุ๋ยที่ใช้กับดอกไม้ประดับทั่วๆ ไป ปริมาณในการให้ขึ้นอยู่กับความต้องการของแคคตัส แต่ละพันธุ์ ขนาดต้น รวมถึงสภาพแวดล้อมในการปลูก แต่ไม่ควรให้ปุ๋ยมากจนเกินไป เพราะจะทำให้ต้นมีการเจริญเติบโตผิดปกติได้ สีต้นอาจจะเปลี่ยนหรือเป็นสีเขียวมากขึ้น ต้นจะยืดยาวผิดปกติ ผิดลักษณะ หรือทำให้อ่อนแอ่ เปราะบาง ดังนั้นควรให้ปุ๋ยทุกๆ 1-2 สัปดาห์ ไม่ควรเกินไปมากกว่านี้ และควรระมัดระวังอย่าให้ปุ๋ยเข้มข้นจนมากเกินไป |
||||||
Copyright © 2024 AllCactus - All Rights Reserved Powered by WordPress & Sitemap |