คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจกันว่า แคคตัสเป็นพืชที่ชอบขึ้นอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนแห้งแล้ง อย่างทะเลทราย แต่ในความเป็นจริงแล้วแคคตัสสามารถเจริญเติบโตได้ดีในหลายๆ พื้นที่ เช่น บริเวณชายฝั่งทะเล บริเวณทุ่งหญ้า ในป่าที่มีความชื้นสูง ที่ความสูงระดับน้ำทะเลไปจนถึงที่ระดับความสูงกว่า 4,000 เมตร อากาศหนาวเย็น เช่นทางตอนเหนือและตอนใต้ของอเมริกา ที่อากาศร้อนแห้งแล้ง เช่น ทะเลทราย บริเวณที่ราบ ตามซอกไหล่กินเขาซึ่งมีดินอุดมสมบูรณ์ หรือเป็นหินแข็ง
นอกจากนี้ยังพบว่ามีแคคตัสหลายชนิดที่เจริญเติบโตได้โดยอาศัยร่มเงาและความชื้นจากพืชในกลุ่ม Xerophyte พวก Selaginella Lepidophylla (Resurrection Plant) เช่น แคคตัสพวก Ephithelantha bokei ซึ่งเจริญเติบโตขึ้นจากเมล็ด นั่นแสดงให้เห็นว่าแคคตัสสามารถเจริญเติบโตได้ดีในทุกสภาพพื้นที่ และสภาพอากาศของโลกเกือบทั่วไปไม่จำกัด เฉพาะแถบทะเลทรายเท่านั้น แคคตัสจึงเหมือนกับพืชชนิดอื่นๆ ที่ต้องการวัสดุปลูกที่มีความอุดมสมบูรณ์ หรือเป็นดินผสมที่มีความอุดมสมบูรณ์ หรือเป็นดินผสมที่มีความอุดมสมบูรณ์ โปร่งรวน น้ำไหลผ่านได้สะดวก ไม่อุ้มน้ำ และรักษาความชื้นได้ดี
ส่วนผสมของวัสดุปลูกแคคตัสนั้นโดยส่วนมากนิยมใช้ ดังนี้
– ดิน ควรเป็นดินร่วนหรือดินร่วนเหนียว โดยการนำดินไปตากให้แห้ง นำไปทุบให้ร่วนเป็นเม็ดเล็กๆ จากนั้นให้นำไปตากแดดจัดๆ อีกประมาณ 1-2 วัน ระวังอย่าให้ดินที่ตากแดดได้ที่แล้วถูกฝนหรือถูกความชื้นก่อนที่จะนำไปผสมกับวัสดุอื่น
– ทรายหยาบ เป็นส่วนผสมหลักที่จำเป็นสำหรับการปลูกแคคตัส สาเหตุที่ไม่ใช้ทรายละเอียดในการผสมเพราะจะทำให้ดินผสมแน่นเกินไป ทรายที่ใช้อาจเป็นทรายทะเลหรือทรายน้ำจืดก็ได้ ควรมีลักษณะหยาบเป็นเม็ดๆ ขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียว เพราะจะช่วยให้ดินผสมโปร่ง ระบายน้ำได้ดี ไม่มีน้ำขังแฉะเมื่อถูกฝนหรือรดน้ำ ให้นำทรายหยาบไปล้างน้ำให้สะอาดและนำไปตากแดดให้แห้งดีก่อนจะนำไปใช้
– ถ่านป่น คือ ถ่านดำนำมาทุบให้แตกเป็นก้อนเล็กๆ
– ใบไม้ผุ จะใช้ใบไม้อะไรก็ได้ที่สามารถย่อยสลายได้ง่าย ยิ่งถ้าเป็นใบก้ามปูได้ยิ่งดี แต่บางครั้งอาจใช้กากเมล็ดฝ้าย เปลือกถั่ว ขี้เลื้อย หรือแกลบคั่ว อย่างใดอย่างหนึ่งแทนก็ได้
– ปูนขาว จะใช้เพียงเล็กน้อยเพื่อช่วยปรับสภาพของดินให้ดีขึ้น
– กระดูกปน จะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ แต่ถ้าจะใช้ควรจะใช้แต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
อัตราส่วนในการผสม ได้แก่
- ดิน 2 ส่วน
- ทรายหยาบ 3 ส่วน
- ถ่านป่น 1 ส่วน
- ใบไม้ผุ 1 ส่วน
นอกจากนี้ยังอาจผสมปุ๋ยคอกหรืออิฐหักเข้าไปด้วยก็ได้
เมื่อเตรียมวัสดุต่างๆ ครบเรียบร้อยแล้วให้นำทรายหยาบมากองบนพื้นปูนเรียบๆ โดยกองทรายเป็นรูปกรวยคว่ำ นำดินมาโรยทับกองทรายหยาบ แล้วใช้จอบหรือเสียมสับจากด้านริม (เหมือนกับการผสมปูนซีเมนต์ก่อสร้าง) เมื่อผสมเข้ากันดีแล้วให้เกลี่ยกองทรายเป็นรูปกรวยคว่ำอีกครั้ง แล้วนำใบไม้ผุเข้ามาโรยทับ ผสมเช่นเดียวกันกับครั้งแรก ากนั้นเติมถ่านป่น ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน ในขณะเดียวกันก็ให้โรยปูนขาวและกระดูกป่นลงไปด้วย เมื่อผสมเข้ากันดีแล้วจึงนำไปใช้เป็นดินปลูกต่อไป